อยู่ ระหว่าง ปี พ.ศ . 2488 ถึง พ.ศ . 2501 เป็น คอมพิวเตอร์ ที่ ใช้ หลอดสุญญากาศซึ่ง ใช้ กำลัง ไฟ ฟ้า สูง จึง มี ปัญหา เรื่อง ความ ร้อน และ ไส้ หลอด ขาด บ่อย ถึง แม้ จะ มี ระบบ ระบาย ความ ร้อน ที่ ดี มาก การ สั่ง งาน ใช้ ภาษาเครื่องซึ่ง เป็น รหัส ตัว เลข ที่ ยุ่ง ยาก ซับ ซ้อน เครื่องคอมพิวเตอร์ ของ ยุค นี้ มี ขนาด ใหญ่ โต เช่น มาร์ค วัน (MARK I), อี นิ แอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC)คอมพิวเตอร์ ยุค ที่ สอง อยู่ ระหว่าง ปี พ.ศ . 2502 ถึง พ.ศ . 2506 เป็น คอมพิวเตอร์ ที่ ใช้ ทรานซิสเตอร์ โดย มี แกนเฟอร์ไรท์เป็น หน่วย ความ จำ มี อุปกรณ์ เก็บ ข้อ มูล สำรอง ใน รูป ของ สื่อ บัน ทึก แม่ เหล็ก เช่น จาน แม่ เหล็ก ส่วน ทางด้าน ซอฟต์แวร์ก็ มี การ พัฒนา ดี ขึ้น โดย สามารถ เขียน โปรแกรม ด้วย ภาษา ระดับ สูง ซึ่ง เป็น ภาษา ที่ เขียน เป็น ประโยค ที่ คน สามารถ เข ้าใจ ได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษา โค บอล เป็น ต้น ภาษา ระดับ สูง นี้ ได้ มี การ พัฒนา และ ใช้ งาน มา จน ถึง ปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ ยุค ที่ สาม อยู่ ระ หย่างปี พ.ศ . 2507 ถึง พ.ศ . 2512 เป็น คอมพิวเตอร์ ที่ ใช้ วง จร รวม (Integrated Circuit : IC) โดย วง จร รวม แต่ ละ ตัว จะ มี ทรานซิสเตอร์ บรรจุ อยู่ ภาย ใน มาก มาย ทำ ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ จะ ออก แบบ ซับ ซ้อน มาก ขึ้น และ สามารถ สร้าง เป็น โปรแกรม ย่อย ๆ ใน การ กำหนด ชุด คำ สั่ง ต่าง ๆ ทางด้าน ซอฟต์แวร์ก็ มี ระบบ ควบ คุม ที่ มี ความ สามารถ สูง ทั้ง ใน รูป ระบบ แบ่ง เวลา การ ทำ งาน ให้ กับงาน หลาย ๆ อย่าง
อ้างอิง : หนังสือเรียนรายวิชาเทคโนโลยีและการสื่อสาร
คอมพิวเตอร์
อ้างอิง : หนังสือเรียนรายวิชาเทคโนโลยีและการสื่อสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น